พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงตัดผม ม.ร.ว. เดชนศักดิ์ โอรสของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ และหม่อมมณี


(๖) ๕:ด:8:4 ธิดาพระยาราชานุประพันธ์ (เปีย บุนนาค) ราชทูตไทยประจำราชสำนักเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มารดาชื่อ ดอรีส (สกุลเดิม วินดั้ม) คุณหญิงมณีเป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) เกิด พ.ศ. ๒๔๕๗ ที่ประเทศอังกฤษ มีพี่ชายร่วมบิดามารดา ๑ คน ชื่อ อุทัย

พ.ศ. ๒๔๖๐ เมื่อพระยาราชานุพันธ์ (เปีย บุนนาค) พาครอบครัวกลับประเทศไทย ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านที่ได้รับพระราชทาน ที่ถนนสี่พระยา ซอยแพรกบ้านใน หลังวัดมหาพฤฒาราม (วัดตะเคียน) คุณหญิงมณีได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ เรียนชั้นประถมได้ ๓ ปี บิดาให้ลาออกมาเรียนที่บ้านกับมารดา ได้เรียนรู้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส หลังจากท่านบิดาถึงแก่กรรม ได้เข้าเรียนต่อเป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนเซนต์แมรี่ เอส.พี.จี. (Society for the Propagation of the Gospel) ซึ่งเป็นโรงเรียนมิชชั่นนารี นิกายโปรแตสแตนท์ มีอาจารย์ใหญ่เป็นชาวอังกฤษ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยม ศึกษาแล้ว ได้สอบเข้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย เรียนได้เพียง ๒ ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ สอบชิงทุนของ ก.พ. (คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) ในแผนกอักษรศาสตร์ ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เรียนที่มหาวิทยาลัยได้ ๒ ปี ต้องลาออกเข้าพิธีสมรสกับพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาตศักดิเดชน์ ภานุพันธ์ ใน พ.ศ. ๒๔๘๐ ต่อมามีบุตร ๒ คน คือ หม่อมราชวงศ์เดชนศักดิ์ ศักดิเดชน์ และหม่อมราชวงศ์ทินศักดิ์ ศักดิเดชน์ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ ทำงานกับบริษัท A.T.A. ทำหน้าที่ขับเครื่องบิน และเป็นเสรีไทยในประเทศอังกฤษอีกด้วย

พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ สิ้นชีพตักษัยเนื่องจากทรงขับเครื่องบิน และเครื่องตกที่ประเทศสก๊อตแลนด์ในระหว่างที่ทรงปฏิบัติหน้าที่

หม่อมมณีได้เข้าพิธีสมรสใหม่กับพระองค์เจ้าอาภัสสรวงษ์ ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ มีธิดา ๑ คน ชื่อ หม่อมราชวงศ์อรมณี ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ พระองค์เจ้าอาภัสสรวงษ์ได้พาครอบครัวกลับประเทศไทย


คุณหญิงมณี สิริวรสาร

พระองค์เจ้าอาภัสสรวงษ์ และพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ สุประภาต เป็นโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ ซึ่งเป็นพระอนุชาร่วมพระมารดาเดียวกับสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ได้อภิเษกสมรสกับหม่อมแม้น (สกุลเดิม บุนนาค) น้องร่วมบิดามารดากับเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (แพ) และเจ้าจอมมารดาโหมด ซึ่งท่านเป็นธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) กับท่าน ผู้หญิงอิ่ม หม่อมแม้นมีพระโอรสและพระธิดารวม ๓ พระองค์ พระธิดาองค์เล็กพระนามว่า พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล หม่อมแม้นถึงแก่กรรมแต่ยังสาว สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ มีชายาใหม่อีกหลายท่าน หม่อมสุดท้ายคือ หม่อมเล็ก (สกุลเดิม ยงใจยุทธ) ซึ่งมีพระโอรสและพระธิดา ได้แก่ พระองค์เจ้าหญิงรำไพประภา พระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ พระองค์เจ้านรเศรษฐสุริยศักดิ์ และพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต หม่อมเล็กถึงแก่กรรม ขณะคลอดพระธิดาองค์เล็ก และสิ้นชีพไปพร้อมกัน ดังนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีฯ ได้ส่งพระองค์เจ้า อาภัสสรวงศ์ไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่พระชนม์ ได้ ๙ ชันษา ส่วนพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ นั้นทรงนำไปถวายตัวแด่สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ตั้งแต่ ๘ ชันษา ได้ประทานพระอนุญาตให้ใช้ราชทินนาม "ศักดิเดชน์" ต่อท้ายนาม

เมื่อหม่อมมณีกลับมาอยู่ประเทศไทย ได้ไปทำงานในตำแหน่งอาจารย์พิเศษสอนภาษาอังกฤษที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามคำเชิญชวนของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ซึ่งเป็นอาจารย์หัวหน้าภาควิชาในขณะนั้น หลังจากหย่ากับพระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์แล้ว จึงลาออกจากอาจารย์พิเศษที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มาสร้างบ้านหลังใหม่อยู่ที่ถนนเพลินจิต รับงานแปลบทความภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษให้กับสำนักงานข่าวสารอเมริกัน

ต่อมาได้กลับไปพักที่ประเทศอังกฤษเพื่อเยี่ยมมารดาและบุตรที่ศึกษาอยู่ที่นั่น ได้ทำงานในตำแหน่งหัวหน้าแผนกส่งวิทยุกระจายเสียงภาคภาษาไทยให้สถานีวิทยุบีบีซี อยู่ประมาณ ๑ ปี จึงกลับเมืองไทย พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้เข้าพิธีสมรสใหม่กับพลตรี นายแพทย์ปชา สิริวรสาร และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันถึง ๒๓ ปี จนนายแพทย์ปชาถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖

คุณหญิงมณีและนายแพทย์ปชา ได้บริจาคทรัพย์สร้างตึกผู้ป่วยด้วย โรคหู คอ จมูก เป็นอาคาร ๔ ชั้น มีห้องผ่าตัดทันสมัย มอบให้แก่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และได้ขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้ชื่อตึกว่า "ตึกศักดิเดชน์" ทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จฯ มาทรงทำพิธีเปิดตึกนี้ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ ต่อมาได้บริจาคทรัพย์ส่วนหนึ่งร่วมสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่จังหวัดจันทบุรี และมอบเงินให้แก่กรมแพทย์ทหารบก จำนวน ๑ ล้านบาทเป็นทุนจัดตั้งมูลนิธิ "ศักดิเดชน์" เพื่อจัดหาเครื่องมือแพทย์และใช้ในการดูแลบำรุงรักษาอาคารด้วย จัดตั้งมูลนิธิถวายไว้ที่วัดราชบพิธ เพื่อใช้ดอกผลเป็นปัจจัย ๔ ถวายพระสงฆ์โดยสมทบทุนทุกปี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

นอกจากนี้คุณหญิงมณี ยังได้ช่วยงานด้านสังคมสงเคราะห์ตามสมาคมสตรีต่างๆ และเป็นกรรมการ อยู่หลายสมาคม ทั้งยังช่วยหาเงินปลูกสร้างอาคารให้กับมูลนิธิสตรีอุดมศึกษาจนเป็นผลสำเร็จและยังใช้เป็นอาคารที่ทำงานของมูลนิธิฯ และสมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

คุณหญิงมณี สิริวรสาร ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒

ถึงแก่อนิจกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ อายุ ๘๕ ปี

หน้า 56

 


สายเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30
31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56
57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82
83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106
107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115

Copyright © 2005 Bunnag.in.th All rights reserved.