(15) ๓:ด เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ เป็นบุตรชายคนเล็กของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ) กับหม่อมอิน (หรือลูกอิน) เกิดที่เมืองชุมพร เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๒ ขณะที่ท่านบิดายังเป็นเจ้าพระยาพระคลังออกไปสักเลข (เกณฑ์ทหาร) อยู่ที่เมืองชุมพร จึงได้ชื่อว่า "ชุมพร" เพื่อเป็นอนุสรณ์ คนส่วนใหญ่เรียกท่านว่า "พร" เป็นชื่อจริงจนเข้ารับราชการ

เมื่อสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ) ถึงแก่พิราลัย พ.ศ. ๒๓๙๘ ท่านยังเด็กมาก จึงอยู่ในความดูแลของพี่ชายใหญ่ คือ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) ซึ่งเป็นที่พระสมุหพระกลาโหมอยู่ขณะนั้น ท่านพรได้รับการศึกษาเบื้องต้นจากพระอาจารย์แก้ว ที่วัดประยุรวงศาวาส ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยรักการศึกษาเล่าเรียนมาก จึงมักถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนกลั่นแกล้งเสมอ สมเด็จกรมพระยาดำรง ราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ไว้ใน ประวัติของเจ้าพระยาภาสกรวงศ์เองว่า

"ข้าพเจ้าเคยได้ยินเพื่อนเรียนของท่าน คือ พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชื่น บุนนาค) และพระยาประภากรวงศวรวุฒิภักดี (ชาย บุนนาค) เป็นต้น เล่าให้ฟังว่าเจ้าพระยาภาสกรวงศ์นั้น ชอบวางตัวเป็นนักปราชญ์มาแต่เด็ก ไม่ใคร่ถูกกับเพื่อนฝูงจึงมักถูกเขารังแก...."

เมื่ออายุได้ ๑๕ ปี สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ได้ส่งท่านพร ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ที่โรงเรียนแบลคฮีท ใกล้กรุงลอนดอน ศึกษาอยู่ ๓ ปี จนมีความรู้สามารถอ่าน พูด และเขียนภาษาอังกฤษได้ดีพอควรก็ต้องกลับมาพระนครเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๙ เนื่องจากเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค)(๑) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตไปยังทวีปยุโรป และ ไม่มีล่ามประจำตัว จึงให้ท่านพรทำหน้าที่ดังกล่าวระหว่างนั้น

เมื่อกลับมาเมืองไทยใน พ.ศ. ๒๔๑๐ ได้เข้ารับราชการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ ได้พระราชทานสัญญาบัตรเป็น นายราชาณัตยานุหาร ตำแหน่งหุ้มแพรวิเศษในกรมพระอารักษ์ รับราชการในหน้าที่ราชเลขานุการสำหรับเชิญกระแสรับสั่งไปเจรจากับชาวต่างประเทศ แทนหน้าที่หม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร ณ อยุธยา) ซึ่งถึงอนิจกรรม

ในขณะรับราชการในตำแหน่งนี้ นายราชาณัตยานุหาร (พร บุนนาค) ได้ศึกษาเล่าเรียนตลอดเวลาโดยอาศัยตำราเรียนต่างๆ จากสำนักเรียนของพระยาศรีสุนทรโวหาร (ฟัก สาลักษณ์) จึงทำให้ท่านมีความรู้ภาษาไทยแตกฉาน ทั้งในด้านภาษาอังกฤษท่านก็ได้พยายามศึกษาด้วยตัวเองจากตำราต่างประเทศ นอกจากนี้ท่านเป็นผู้ตั้งระเบียบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตั้งกรมทหารมหาดเล็ก จัดโรงเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเจ้านาย และโรงเรียนภาษาไทยในกรมทหารมหาดเล็ก


เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค)
กับท่านผู้หญิงเปลี่ยนภริยา


เจ้าพระยาภาสกรวงศ์
ถ่ายขณะยังเป็นนายราชาณัตยานุหาร

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้นายราชาณัตยานุหารเป็นจมื่นศรีสรรักษ์ หัวหมื่นมหาดเล็ก พ.ศ. ๒๔๑๖ ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาภาสกรวงศ์วรราชาธาณัตินฤปรัตน สุปรีย์ราชไปเวต สีเกรตารี ว่าที่จางวางมหาดเล็ก และเป็นเลฟเตแนนต์ เคอแนล ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

พ.ศ. ๒๔๓๕ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระยาภาสกรวงศ์ฯ ขึ้นเป็นเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ

เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ ท่านเป็นผู้มีความรู้ด้านต่างประเทศมาก โปรดฯ ให้เป็นราชทูตพิเศษไปยังประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๒ เจราจาเกี่ยวกับกรณีที่เกิดจาก นายโทมัส ยอร์จ น็อกซ์ (Thomas George Knox) กงสุลเยเนรอลอังกฤษประจำประเทศไทย ซึ่งท่านได้ ปฏิบัติราชการสำเร็จดังพระราชประสงค์ และยังได้เป็นราชทูตพิเศษไปเจริญทางสัมพันธไมตรี ยังประเทศเยอรมนีและประเทศอื่นๆ ในยุโรปอีกด้วย เมื่อกลับมาแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้เป็นอธิบดีกรมพระคลังสวน แล้วเป็นเสนาบดีกระทรวงเกตราธิการ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ตามลำดับ ได้รับพระราชทานเครื่องราช อิสริยาภรณ์ปฐม จุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) ได้สมรสกับท่านผู้หญิงเปลี่ยน(๓) ธิดานายสุดจินดา (พลอย ชูโต) มีบุตรธิดา ๕ คน ได้แก่

  • จมื่นศรีสรรักษ์ (เพ่ง) ในรัชกาลที่ ๕ เป็นบิดาของหลวงสมัครนันทพล (พืชน์) และหลวงพินิตพาหนะเวทย์ (พิง)
  • นายราชาณัตยานุหาร (พาสน์) ในรัชกาลที่ ๕
  • เจ้าจอมพิศว์ ในรัชกาลที่ ๕
  • หม่อมพัฒน์ เป็นหม่อมห้ามเอกในพระราชวรวงศ์เธอพระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ต้นราชสกุล รัชนี มีโอรสธิดา ได้แก

    - หม่อมเจ้าจันทร์เจริญศิริ
    - หม่อมเจ้าศะศิเพลินพัฒนา
    - หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์
    - หม่อมเจ้ารัชนีพัฒน์พิทยาลงกรณ์
    - หม่อมเจ้าศะศิธรพัฒนวดี
    - หม่อมเจ้าจันทร์พัฒน์โมฬีจุฑาพงศ์

  • คุณหญิงพวง เป็นภรรยาพระยาดำรงราชพลขันธ์ (คอน บุนนาค)


เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (ซ้ายสุด) ถ่ายกับประธานธิบดีแกรนท์ แห่งสหรัฐอเมริกา
เมื่อเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี ในสมัยรัชกาลที่ ๕

เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ ยังเป็นผู้ทำนุบำรุงวัดของสกุลคือ วัดประยุรวงศาวาส เป็นผู้ทำหนังสือมิวเซียมหรือรัตนโกษ และชอบคิดศัพท์แปลกๆ เช่น ชื่อศาลาอันเตปุริกธุริน ซึ่งเป็นสโมสรของพนักงานรักษา พระนครระหว่างรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรป พ.ศ. ๒๔๕๐ (ศาลาอยู่ในสวนดุสิต) เป็นต้น(๔)

เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) รับราชการในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงธรรมการจนเข้าสู่วัยชรา จึงขอพระบรมราชานุญาตลาออกจากตำแหน่งเสนาบดี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๕ และได้รับพระราชทานเบี้ยบำนาญ ต่อมาจนกระทั่งถึงอสัญกรรมในรัชกาลที่ ๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ รวมอายุได้ ๗๑ ปี

หน้า 13

 


สายเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30
31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56
57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82
83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106
107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115

Copyright © 2005 Bunnag.in.th All rights reserved.